แบบบ้าน

ออกแบบบ้านดี มีความปลอดภัยมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถ้าดูจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์ตึกถล่ม คอนโดเกิดรอยร้าวเป็นจำนวนมาก แต่บางที่กลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ทำให้เห็นว่าการออกแบบบ้านที่ดีจะช่วยให้เราปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังสามารถนั่งกดหวยไว หรือนั่งทำงานได้อย่างปลอดภัย โดยที่ไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์มากนัก

แต่ถ้าหากเป็นสถานการณ์รุนแรงและเร่งด่วน บ้านที่มีความแข็งแรงจะสามารถยื้อเวลาให้เราออกจากตัวบ้านได้อย่างปลอดภัย และมีเวลาจัดการหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่าบ้านที่ไม่แข็งแรง

ออกแบบบ้าน แบบไหนปลอดภัยต่อแผ่นดินไหว

การออกแบบบ้านให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก บ้านที่ไม่ได้รับการออกแบบให้ต้านทานแรงสั่นสะเทือนอาจได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ดังนั้นแนวทางสำคัญในการออกแบบบ้านให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว ได้แก่:

  • ใช้โครงสร้างที่แข็งแรงและยืดหยุ่น เช่น โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กหรือโครงเหล็กที่สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้
  • เลือกใช้ฐานรากที่เหมาะสม ควรมีการตรวจสอบสภาพดินและใช้ฐานรากลึกเพื่อเพิ่มความมั่นคง
  • ใช้วัสดุที่มีความทนทานสูง เช่น ไม้ที่สามารถโค้งงอได้ หรือคอนกรีตที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อต้านแรงสั่นสะเทือน
  • ติดตั้งอุปกรณ์ลดแรงสั่นสะเทือน เช่น แท่นรองรับแรงกระแทกหรือแดมเปอร์ที่ช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนของอาคาร
ออกแบบบ้าน

ออกแบบบ้าน แบบไหนปลอดภัยต่ำน้ำท่วม

น้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ การออกแบบบ้านให้ปลอดภัยจากน้ำท่วมสามารถช่วยลดความเสียหายได้ ดังนี้:

  • ยกระดับบ้านให้สูงขึ้น โดยสร้างฐานบ้านให้สูงจากระดับน้ำที่คาดการณ์ว่าจะท่วมถึง หรือใช้เสาเข็มเพื่อยกตัวบ้านขึ้น
  • ออกแบบระบบระบายน้ำที่ดี เช่น มีรางน้ำรอบบ้าน ใช้วัสดุที่ซึมน้ำได้น้อย และติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากตัวบ้าน
  • เลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อน้ำ เช่น ผนังคอนกรีต เคลือบกันซึม หรือกระเบื้องที่สามารถทนต่อความชื้นได้ดี
  • ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม เช่น กำแพงกันน้ำท่วม หรือประตูและหน้าต่างกันน้ำที่สามารถป้องกันน้ำไหลเข้าบ้านได้

ออกแบบบ้าน ให้ปลอดภัยต่อพายุไต้ฝุ่น

ลมพายุสามารถสร้างความเสียหายให้กับบ้านได้โดยตรง โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่มีพายุบ่อย ๆ ดังนั้นการออกแบบบ้านให้สามารถต้านแรงลมพายุได้ควรมีแนวทางดังนี้:

  • ใช้โครงสร้างที่แข็งแรงและทนลมแรง ควรใช้เหล็กกล้าหรือคอนกรีตเสริมเหล็ก และออกแบบให้มีจุดเชื่อมต่อที่แข็งแรงเพื่อลดการถูกแรงลมพัดพา
  • ออกแบบหลังคาให้ลาดเอียงและมีโครงสร้างที่มั่นคง เพื่อช่วยลดแรงปะทะของลมและลดโอกาสที่หลังคาจะถูกพัดปลิว
  • ติดตั้งบานเกล็ดหรือประตูหน้าต่างกันพายุ เพื่อลดแรงปะทะของลมและป้องกันวัตถุจากภายนอกพัดเข้ามาทำลายภายในบ้าน
  • หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่เบาและเปราะบาง เช่น กระเบื้องมุงหลังคาที่อาจปลิวตามแรงลมได้ง่าย ควรใช้วัสดุที่มีน้ำหนักและความแข็งแรงสูง

ออกแบบบ้านให้ป้องกันปลอดภัยจากไฟป่า และไฟไหม้

สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อไฟป่า ควรมีการออกแบบบ้านที่ช่วยลดโอกาสในการติดไฟและป้องกันความเสียหายจากเปลวไฟ ดังนี้:

  • ใช้วัสดุกันไฟ เช่น ผนังและหลังคาที่ทำจากคอนกรีตหรือโลหะ ซึ่งสามารถต้านไฟได้ดีกว่าไม้
  • กำหนดพื้นที่กันไฟรอบบ้าน โดยเคลียร์พื้นที่รอบบ้านให้โล่งและปราศจากเชื้อเพลิง เช่น ใบไม้แห้ง กิ่งไม้ หรือพุ่มไม้ที่อาจติดไฟได้ง่าย
  • ติดตั้งระบบฉีดน้ำอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิและป้องกันการลุกลามของไฟ
  • ออกแบบทางหนีไฟที่ปลอดภัย เช่น มีประตูฉุกเฉินหรือเส้นทางออกจากบ้านที่สามารถใช้งานได้สะดวกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

ถ้าอยากป้องกันได้ทุกภัยพิภัยต้องออกแบบยังไง?

หากต้องการให้บ้านสามารถป้องกันภัยพิบัติทุกประเภทได้ ควรใช้แนวทางออกแบบที่สามารถรองรับได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น  แผ่นดิวไหว น้ำท่วม พายุ หรือไฟป่า ดังนี้

 

  1. โครงสร้างต้านทานแผ่นดินไหว – ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กหรือเหล็กกล้า และติดตั้งระบบลดแรงสั่นสะเทือน
  2. ยกระดับป้องกันน้ำท่วม – สร้างบ้านให้สูงกว่าระดับน้ำท่วม หรือออกแบบให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่เปิดโล่ง
  3. ต้านแรงลมพายุ – ใช้วัสดุแข็งแรง เช่น หลังคาเหล็กกันลม และติดตั้งหน้าต่างกันพายุ
  4. วัสดุทนไฟป้องกันไฟป่า – ใช้ผนังและหลังคาที่ทำจากคอนกรีตหรือโลหะ และออกแบบให้มีพื้นที่กันไฟรอบบ้าน
  5. ระบบพลังงานสำรอง – ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่สำรอง รวมถึงระบบกักเก็บน้ำฝน
  6. อุปกรณ์ฉุกเฉินและระบบเตือนภัย – ติดตั้งเซ็นเซอร์แผ่นดินไหว น้ำท่วม และควันไฟ พร้อมทางหนีภัยที่ปลอดภัย
  7. เลือกทำเลที่เหมาะสม – หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ เช่น เขตน้ำท่วมหนักหรือแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหว

สรุป

การออกแบบบ้านให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติเป็นเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงถึงตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุ การออกแบบโครงสร้าง และการเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน บ้านที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมไม่เพียงช่วยป้องกันความเสียหายแต่ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย การลงทุนในการออกแบบบ้านที่ปลอดภัยต่อภัยธรรมชาติจึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาว

Category
Tags

No responses yet

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *